วันนี้วันจันทร์ที่ 18 ตุลาคม 2553 เวลา 7.00 นาฬิกา พอดีแฮะ
เริ่มทดลองเขียนบล็อกสักหน่อย หลังจากเปิดมานานแล้ว
แต่ดันไปแอบเขียนที่พันทิพย์ซะมากกว่า
เมื่อวานวันอาทิตย์ไปอบรมที่จามจุรีสแควร์มา
หลังเคยไปมาแล้วประมาณสองครั้ง
ก็ดีนะค่าที่จอดรถ ถูกที่สุดแล้วในย่านจุฬาฯมั้ง 555
ว่าแต่...พอไม่ได้ไปตั้งนาน รู้สึกว่าตึกฝั่งนิติฯที่เป็นบ้านผู้คนทั่วไป
โดยมีร้านประจำหัวใจของนิสิตจุฬาฯ
ที่โด่งดังใช้ได้ หายไปแล้ว....
" จีฉ่อย " ร้านขายของทุกอย่าง ตั้งแต่ซากกระบือ (ถูกหรือเปล่านี่?? )
ยันเรือรบหายไป ตึกรามบ้านช่องแถวนั้นถูกทุบทิ้งซะหมด
จุฬาฯเวนคืนที่ เอาไปทำอะไรซะแล้ว??
คำถามคือ?? แล้ว " จีฉ่อย " ย้ายไปไหน .........555
แค่คิดถึง แต่ไม่อยากรู้คำตอบหรอก
ขายตั้งแต่บัดนั้น (สมัยเราเป็นนิสิต) ยันบัดนี้
ไม่รวมว่าเปิดก่อนหน้ามากี่ปี ใช่สิ
รวมกับที่พี่เราเรียนก่อนเรา ก็ได้เห็นจีฉ่อยมาก่อนนะ
คงหลายปีน่าดู (อาจรวยไปแล้ว อิอิ)
อ้อ ! เมื่อวานที่ไปแถวจุฬาฯ เห็นพวกเด็กๆมัธยมมากมาย
ไม่รู้มาสอบGAT-PAT หรือเปล่า
เดินยัวเยี่ยไปหมด เอ ! คำนี้ใช้กับคนหรือเปล่าหนอ
เอาเป็นว่า เดินมากมายไปหมด
แต่สิ่งที่เห็นเมื่อสมัยก่อนและยังคงเป็นคือ
" การจอดรถริมฟุตบาท " กรณีในจุฬาฯไม่มีที่จอดเพียงพอ
และกรณีผู้ปกครองมารับบุตรหลาน ทำให้วันอาทิตย์ที่รถน่าจะไม่ติด
กับติดขึ้นมาเพียงเพราะถนนหายไปหนึ่งเลน
หรือไม่ก็ฝีมือพวกแท็กซี่จอดรอรับผู้โดยสารเหมือนเดิม
ไม่หงุดหงิดหรอกนะ เพราะเมื่อวานฝนตก
พอเข้าใจได้ รู้ซึ้งดี เพราะสมัยก่อนก็ไม่ได้มีรถใช้ได้
แย่ยิ่งกว่านั้น ไม่ขึ้นแท็กซี่ด้วยสิ
แค่ตากฝนขึ้นรถเมลล์ตามประสาคนจน 5555
ช่วงวิ่งรถผ่านไปแถวถนนสาทร เห็นผู้คนมากมายริมถนน
เตรียมตั้งโต๊ะหมู่บูชาบ้า เตรียมซุ่มดอกไม้สวยงาม
มองไปบางคนเริ่มนำองค์พระพิฆเนตรมายังโต๊ะ
คิดในใจคงมีงานประจำปีของวัดแขกแน่ๆ
สักพักพอรถวิ่งหยุดตรงไฟแดงหนึ่ง
เห็นป้ายบอกให้เลี่ยงการจราจรหลังช่วงหกโมงเย็น
เป็นต้นไป มีงานวัดแขกจริงๆ แต่เมื่อวานเป็นการบูชา
พระแม่ฯ อะไรสักองค์ จำชื่อไม่ได้ไม่เขียนดีกว่า
เดี๋ยวผิดพลาดไป ไม่ดี
ระหว่างเมื่อวานทั้งวันก็ฟังข่าวน้ำท่วมโคราช
ทางอีสานน่าสงสารมากนะ ร้อนก็แห้งแล้งมากไม่มีน้ำ
ทำนา พอฝนมาน้ำก็มาท่วมแบบไม่ปรานีปราศรัยกันเลย
อยุธยาก็ใช่ย่อยได้ข่าวว่าบางวัดน้ำก็ท่วม
เข้าองค์พระพุทธรูปด้วยซ้ำ
นี่แหละแบบที่พี่โน้ตอุดมบอก .....Thailand Only.....
อ้อ ! มะวานได้ไปกินโกโก้ปั่นที่ร้านดอยตุง
ในจามจุรีสแควร์แหละ แม่เจ้า ที่จะเล่าเพราะ ราคาพี่แก
แพงใช้ได้เลย แพงยังกับสตาร์บัคส์เลย ถ้วยใหญ่ 110 บาท
ถ้วยใหญ่ต่างกับถ้วยเล็กแค่ 10 บาท
นี่แหละสิ่งที่พนักงานจะพูดให้รู้สึกว่า ซื้อแก้วใหญ่เหอะ
แต่สำหรับเราแค่สิบบาท หรือราคา 110 บาท
มันไม่ใช่สาระ แต่สาระมันอยู่ตรงที่คุณภาพ
สรุปว่า .... ราคาไม่สมคุณภาพ.....
แต่ยกระดับราคาขึ้นมาซะเป็นราคาพรีเมียมเลย
แต่คุณภาพแค่ปานกลาง ถ้าราคาสัก 70-80 บาท
จะรู้สึกว่าไม่แพง แถมยังต้อง Self-service
แล้วคนซื้อต้องมากระย่องกระแย่ง
เดินไปเดินมาแบกเครื่องดื่ม หรือแม้แต่เบอเกอรี่เอง
เอาธรรมเนียมต่างประเทศมาใช้
เอาราคามาใช้ แต่คุณภาพไม่ถึง
(บางครั้งถ้าเราสั่งมาก สตาร์บัคส์ พนักงานเค้าก็ส่งให้ถึงที่นะ)
แต่ร้านนี้หยิ่งใช้ได้ สั่งเครื่องดื่มสอง เบอเกอรี่สอง
แต่ต้องมาเดินไปเดินมาแบกเอง กินก็ราคาไม่ใช่ถูกๆ
ถ้าสั่งน้ำแก้วเดียวจะไม่ว่าเลย นี่แหละ...ไทยแลนด์โอรี่..
การมาฟังการอบรมฯครั้งนี้ ก็ถือว่าไม่ได้ฟังมานานแล้วนะ
สำหรับการฟังครั้งสุดท้าย ไม่ได้คาดหวังอะไรมาก
ส่วนใหญ่ก็เอาแต่ทวิสฯ ข้อความอย่างที่เห็นแหละ
ช่วงแรกคนก็เต็มห้องนะ พอพักแล้วต่อก็เริ่มมีหายไปบ้าง
พอถึงเวลาก็ลุกไปเยอะเหมือนกัน
นั่งอยู่จนจบแหละ ฟังบ้างไม่ฟังบ้าง เบื่อๆอ่ะ
รู้สึกว่าจัดมาเพื่อขายของต่ออีกแล้วคนไทย
จะมีใครไหม?? ที่จัดอบรม แบบสอนกันรวยแบบหมดเปลือกจริงๆ
ไม่ต้องมีการขายคอร์สอบรมต่อ
ไม่มีหรอกเนอะ จะบ้าหรือ?? เพราะกว่าพวกเค้า
จะเก็บเกี่ยวประสบการณ์การลองผิดลองถูก
มามากสักเท่าไหร่ เค้าก็ต้องลงทุนนะ
ลงทุนทั้งเวลา แรงงาน และเงิน จะมีใคร??
มาบอกให้ฟรีๆ ก็แบบนี้แหละ
พอคิดแบบนี้ทีไร ไม่ค่อยอยากไปอบรมฯแล้ว
ว่าจะไปเล่นเกมส์สักพัก ไปพักใหญ่เลยแฮะ
ต่อไม่ติดแล้วสิ ไว้ค่อยมาว่ากันใหม่นะ *-*
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น